รูปนักเขียน

โอ้โหแม่เจ้า! ใครจะไปคิดว่าแค่ไปดูดวงกับคุณยายเพราะสงสารกลัวว่าท่านจะไม่มีเงินกินข้าว กลับได้ของตอบแทนมาจนทำให้นางตายแถมต้องทะลุมิติไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ตั้งสองพันปีก่อนแบบนี้!

แนะนำเรื่อง
ข้อมูลนักเขียน
นามปากกา : ซินเสวี่ย
นักเขียน : เสี่ยวซินเสวี่ย
Group Writing :
เผยแพร่
วันที่เผยแพร่ : 07 ต.ค. 2567
แก้ไขล่าสุด : 04 เม.ย. 2568
ซื้อ e-book ได้ที่นี่

ทะลุมิติมารับบทพี่สาวของเจ้าสองแฝดพร้อมกับมิติห้างสรรพสินค้า เล่ม 1

"คุณยายคะช่วยดูดวงให้กับหนูหน่อยได้ไหมคะ แล้วราคาในการเปิดไพ่อยู่ที่เท่าไหร่คะ" นับดาว ครูสาวที่เพิ่งจะสอบบรรจุติดครูได้ในตอนที่อายุ 23 ปี ที่เพิ่งจะประการผลการสอบเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน ในวันนี้เธอได้เดินทางเข้าตัวเมืองมาหาซื้อข้าวของเพื่อเตรียมตัวสำหรับไปประจำการสอนที่อีกจังหวัด แต่ในระหว่างทางที่เดินอยู่ริมถนนอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นแผงดูดวงไพ่ยิปซีของคุณยายท่านหนึ่ง เป็นหญิงชราที่ผมเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนทั่วทั้งศีรษะ และมวยผมเก็บขึ้นไปรวบไว้กลางหัวอย่างที่คนแก่ชอบทำกัน สวมใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ซีด ๆ สีขาวที่ออกไปทางสีเทาเสียมากกว่ากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และมีโต๊ะหนึ่งที่สำหรับวางไพ่อยู่ และไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้นับดาวนั้นเดินตรงเข้าไปถามราคาในการเปิดไพ่กับหญิงชรา คงจะเป็นเพราะเธอรู้สึกสงสารและอยากจะช่วยให้หญิงชรามีเงินเอาไว้ใช้สำหรับกินข้าวในวันนี้ก็เป็นได้ เมื่อเดินตรงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างฝั่งตรงข้าวกับหญิงชราแล้วนับดาวจึงได้เอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้น พอจบประโยคคำถามของนับดาวหญิงชราที่ในตอนแรกกำลังนั่งหลับตาในท่าสมาธิอยู่ก็ได้ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับจ้องมองมาที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่หญิงชราจะเอ่ยคำพูดที่ฟังดูแปลก ๆ ให้กับนับดาวได้ฟัง ถึงจะให้เธอเริ่มหยิบไพ่ออกมาสามใบสำหรับการทำนายดวงชะตาในครั้งนี้ "เมื่อสวรรค์ลิขิตมาแล้วว่าเป็นเจ้า เช่นนั้นยายจะดูให้เจ้า เจ้าจงเลือกหยิบไพ่ตรงหน้าออกมาสามใบเถิด" "คะ? อ้อค่ะคุณยาย" นับดาวที่รู้สึกงุนงงกับคำพูดของหญิงชราตรงหน้าในตอนแรกยังไม่ค่อยเข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดมาหมายความว่าอะไร แต่เมื่อจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายให้นางเลือกหยิบไพ่ออกมาสามใบจึงได้เอ่ยตอบรับคำของอีกฝ่าย พร้อม ๆ กับยื่นมือบางออกไปเลือกหยิบไพ่ตรงหน้าของตัวเองออกมาตามจำนวนที่คุณยายเอ่ยบอกเมื่อครู่นี้ในทันที หลังจากที่นับดาวเลือกไพ่ครบทั้งสามใบเสร็จเรียบร้อยเธอก็ได้ส่งไปตรงหน้าของหญิงชราเพื่อให้อีกฝ่ายเริ่มทำนายดวงให้ ไพ่ทั้งสามใบถูกเปิดออกมาด้วยฝีมือของหญิงชราที่ทำหน้าที่เป็นคนเปิดไพ่ เพียงแค่ไพ่ทั้งสามใบหงายหน้าขึ้นมา ใบหน้าของหญิงชราตรงหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาบางเบา พร้อมกับถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้งแล้วเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของนับดาวอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มเอ่ยถึงสิ่งที่ไพ่บอกออกมา "เอาละ ไพ่ใบแรกเป็นอดีตที่ผ่านมาของเจ้านะ นังหนูการที่เจ้ามีชีวิตในวัยเด็กที่น่าสงสารเช่นนั้นก็เป็นเพราะกรรมเก่าที่เจ้าเคยกระทำมาก่อน" "จึงทำให้เจ้าต้องพบเจอแต่เรื่องราวที่ต้องสูญเสียมาโดยตลอด ส่วนไพ่ใบที่สองคือปัจจุบันนี้ เจ้ากำลังจะได้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เจ้าจะต้องแบกรับชีวิตของใครอีกหลายคน" "ที่เจ้าไม่อาจจะปฏิเสธพวกเขาได้ และเจ้าก็มีหน้าที่ต้องสั่งสอนและดูและพวกเขาให้เติบโตมาอย่างดีและเป็นคนที่มีคุณภาพตามที่เจ้าตั้งใจในการเลือกสายงานนี้ของเจ้า" "ส่วนไพ่ใบที่สามนั้นคืออนาคตข้างหน้า เจ้าจะต้องช่วยเหลือใครบางคนที่มีความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมากจนแม้แต่ชีวิตนี้ของเจ้าก็สามารถมอบให้กับคนผู้นั้นได้ เพียงแต่หนทางที่เดินไปในภายภาคหน้าของเจ้านั้นย่อมไม่ได้สวยงาม" "ยายจึงขอให้เจ้าจงใช้สติไตร่ตรองทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งใดลงไป" หญิงชราเอ่ยจบลงเพียงเท่านั้นก็เงียบเสียงลงไปเพื่อรอฟังคำถามที่หญิงสาวตรงหน้ากำลังจะเอ่ยออกมาราวกับล่วงรู้ว่านับดาวจะถามคำถามอยู่ก่อนแล้ว "เอ่อคุณยายคะ หนูขอถามได้ไหมคะว่าใครกันคือคนที่หนูจะต้องช่วยเหลือเขากัน" นับดาวที่ในตอนแรกตั้งใจฟังคำพูดของหญิงชราตรงหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะว่าเพียงแค่คำพูดแรกก็ทำให้เธอรู้สึกขนกายลุกชันขึ้นมา เพราะมันตรงกับสิ่งที่เธอได้รับมาตั้งแต่เด็กจนโต จนในตอนนี้เธอก็เหลือเพียงตัวคนเดียวแล้ว เพราะครอบครัวของเธอนั้นได้จากเธอไปทีละคน ๆ จนหมดตั้งแต่ที่เธออายุได้เพียง 15 ปีแล้วนั่นเอง ส่วนคำทำนายไพ่ใบที่สองเธอก็ยิ่งรู้สึกตกใจว่าคุณยายช่างพูดได้ราวกับว่ารู้ว่าเธอกำลังจะไปสอนเด็ก ๆ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งอยู่จึงได้ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเชื่อในคำพูดของคุณยายมากขึ้น จนมาถึงไพ่ใบสุดท้ายที่บอกว่าเธอจะสามารถมอบชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเหลือใครบางคน แต่เธอนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำแบบนั้นได้เพราะเธอยังไม่มีแฟนและไม่คิดที่จะมีด้วย เพราะการสูญเสียที่ผ่านมานั้นทำให้เธอไม่กล้าที่จะมีคนสำคัญในชีวิตของตัวเองอีกเพื่อหลีกหนีการสูญเสียในภายภาคหน้า แต่นับดาวก็ยังคงเอ่ยถามถึงบุคคลที่จะทำให้เธอนั้น สามารถยอมช่วยเหลือเขาได้แม้ว่าจะต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเองก็ตามขึ้นมาอย่างอยากรู้ เพราะเธอในชีวิตนี้ไม่มีคนสำคัญหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้แล้ว "เมื่อพานพบเจ้าก็จะรับรู้ได้ด้วยตัวเองนั่นแหละหนา รับนี่ไปถือเป็นของขวัญจากยายแก่เช่นข้านะนังหนู" หญิงชราเอ่ยบอกกับนับดาวด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอย่างอบอุ่น ก่อนที่มือเหี่ยวย่นของนางจะยื่นของบางสิ่งมาตรงหน้าของนับดาว สิ่งที่หญิงชรายื่นมาให้กับนับดาวก็คือกำไลข้อมือที่ดูเก่าและสีซีดมากจนไม่สามารถมองออกได้เลยว่าก่อนหน้านี้มันเคยมีสีอะไรมาก่อนกันแน่ ในตอนแรกนับดาวตั้งใจที่จะเอ่ยปฏิเสธหญิงชราไปด้วยความเกรงใจ แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ดูใจดีของอีกฝ่ายแล้วก็ไม่สามารถทำใจทำลายน้ำใจที่คุณยายมอบให้กับตัวเองได้ ดังนั้นนับดาวจึงได้ยื่นมือบางออกไปรับกำไลหยกเก่า ๆ วงนั้นมากำไว้ที่มืออย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่เธอจะเอ่ยขอบคุณหญิงชราตรงหน้าอย่างจริงใจ "ขอบคุณนะคะคุณยาย หนูจะเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หนูคงต้องไปแล้ว ค่าดูดวงในครั้งนี้เท่าไหร่หรือคะ?" หลังจากที่รับกำไลมาเก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนับดาวก็ได้เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งเพื่อบอกให้หญิงชรารับรู้ว่าเธอจะต้องไปแล้ว และต้องการที่จะจ่ายค่าดูดวงในครั้งนี้ตามราคาที่หญิงชราเรียกมา "ค่าดูในวันนี้ 9 บาทจ๊ะ" หญิงชราเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเหมือนอย่างเคย เพียงแต่ราคาที่หญิงชรา บอกมานั้นทำให้นับดาวรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะมันถูกจากราคาที่เธอเคยไปดูมาหลายต่อหลายครั้งเป็นอย่างมาก แต่นับดาวก็ไม่ได้คิดจะพูดขัดความตั้งใจของคุณยายตรงหน้าเธอจึงได้ล้วงมือเข้าไปหยิบเอาเหรียญจำนวน 9 บาทตามที่คุณยายตรงหน้าเรียกอย่างครบไม่ขาดไม่เกิน ก่อนที่มือบางจะยื่นเงินไปวางตรงหน้าของคุณยายตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวเดินจากไปในทันที เพียงแต่ในขณะที่นับดาวกำลังจะก้าวเท้าออกเดินอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงแหบแห้งแต่ดูอบอุ่นของหญิงชราก็ดังขึ้นมาตามหลัง พร้อม ๆ กับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเธออย่างรวดเร็วจนนับดาวเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องสิ่งใดต่อไป "เส้นทางในวันข้างหน้าล้วนเป็นลิขิตสวรรค์ เพียงแต่มานะตนเองนั้นก็ย่อมเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเองได้เช่นกันนะนังหนู ยายขอให้เจ้าโชคดี" ปี๊บ! ปี๊บ! ปี๊บ! ปัง! เสียงบีบแตรรถที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งถนนที่มาพร้อมกับแรกกระแทกอย่างรุนแรงเข้าที่ร่างของนับดาว จนร่างของเธอกระเด็นลอยไปตกลงที่ข้าง ๆ ถนนห่างออกไปจากจุดที่ชนพอสมควร พร้อมกับที่สติที่ดับวูบไปตลอดกาลของนับดาว โดยที่ในมือบางของเธอนั้นยังคงกำกำไลหยกที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงสดของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา และในจังหวะที่นับดาวหมดลมหายใจลงกำไลหยกวงนั้นก็เกิดประกายแสงบางอย่างออกมาจาง ๆ ก่อนที่มันจะจางหายไปพร้อมกับกำไลหยกที่หายวับไปจากมือของหญิงสาวด้วยเช่นเดียวกัน ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของหญิงชราคนที่นับดาวดูดวงด้วยเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่ร่างของหญิงชรานั้นจะค่อย ๆ เลือนหายไปในความว่างเปล่าเช่นเดียวกัน

ตอนทั้งหมด (66) เก่าไปใหม่ ซื้อทุกตอน
07 ต.ค. 67 10:10 25 9.26K 1704 คำ (7 หน้า)
08 ต.ค. 67 15:59 20 7.23K 1835 คำ (8 หน้า)
08 ต.ค. 67 09:00 22 6.5K 1885 คำ (8 หน้า)
08 ต.ค. 67 19:01 25 6.69K 1688 คำ (7 หน้า)
09 ต.ค. 67 19:01 59 6.6K 1638 คำ (7 หน้า)
10 ต.ค. 67 19:01 34 6.44K 1711 คำ (7 หน้า)
11 ต.ค. 67 19:01 29 6.31K 1806 คำ (8 หน้า)
12 ต.ค. 67 06:23 10 5.68K 79 คำ (1 หน้า)
12 ต.ค. 67 19:01 30 6.52K 1795 คำ (8 หน้า)
13 ต.ค. 67 19:01 29 6.74K 1841 คำ (8 หน้า)
#11 - #30
#31 - #50
#51 - #66
แชร์
ทวีต Line it
canvas
Upload to Server | Delete from Server
html
โดย
เรื่องที่คุณอาจจะสนใจ

ปักหมุด

[ชื่อคนเขียน] -
[วันที่สร้างคอมเม้น]